เคสรีวิวที่ 190
เคสนี้ลูกค้าใช้แว่นตัวเดิมมา 3 ปีแล้ว ตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่สบายตา มองไกลไม่ชัดเหมือนแต่ก่อน ยิ่งช่วงเวลากลางคืนจะมองเห็นแสงฟุ้งกระเจิงเวลาขับรถ ตอนกลางวันต้องออกไปพบลูกค้ารู้สึกแสบตา เคืองตา ทำให้อยากมาตรวจวัดสายตาและตรวจวัดสุขภาพตาร่วมด้วย
ค่าสายตาแว่นเดิม
R -5.50-1.00×171 VA 20/40+2
L -5.50-0.75×180 VA 20/32+2
ค่าสายตาละเอียด
R -5.80-1.29×176 VA 20/20
L -5.59-1.29×180 VA 20/20
จากการตรวจวัดสายตาแบบละเอียดพบว่าด้านขวามีค่าสายตาสั้นและเอียงเพิ่มเล็กน้อย ด้านซ้ายมีค่าสายตาเอียงเพิ่ม ทางร้านจึงได้ให้ลูกค้าจำลองการใช้งานในห้องจำลอง ได้ทดสอบการเดินขึ้นลงบันได ได้ทดสอบการมองเห็นในสภาวะกลางวันและกลางคืน ลูกค้าชอบค่าสายตาละเอียดนี้มาก ทางร้านได้ตรวจสุขภาพดวงตาส่วนหน้า มีตาแห้งเล็กน้อย ไม่มีภาวะต้อกระจกหรือต้อหินมุมปิด ความหนาของกระจกตาอยู่ในเกณฑ์ปกติ สุขภาพดวงตาโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ลูกค้าต้องการเลนส์ที่สามารถทำค่าสายตาแบบละเอียด 0.01 ไดออปเตอร์ หลังจากได้ฟังนักทัศนมาตรแนะนำเรื่องโครงสร้างเลนส์ชนิดต่างๆ ลูกค้าจึงตัดสินใจเลือกใช้เลนส์ Zeiss 1.67 Single Vision Superb DuraVision Platinum PhotoFusion Brown ด้วยเทคโนโลยีการขัดแบบอิสระจุดต่อจุด (Freeform) จึงสามารถทำค่าสายตาแบบละเอียดและเพิ่มความคมชัดของภาพ โดยมีการย่อบางเลนส์ที่ index 1.67 เนื่องจากลูกค้ามีค่าสายตาที่สูง เวลาสวมใส่แว่นแล้วแว่นจะไหล จึงต้องการสั่งตัดเลนส์ที่บางขึ้นและเบาลง ทำให้ลดน้ำหนักการกดจมูกและหยุดการไหลของแว่นได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังมีการนำ Supeb Technology มาคำนวณโครงสร้างของเลนส์โดยการใช้ค่าเฉพาะบุคคลอย่างมุมเทของแว่น (pantoscopic) ที่จะช่วยเพิ่มมุมมองเวลามองบริเวณรอบๆกรอบ ลดภาพบิดเบือน ลดอาการปวดศีรษะจากการมองภาพบิดเบือนได้ เหมาะสำหรับคนที่มีสายตาสูง โดยเลน์รุ่นนี้ยังมีการเคลือบสาร Duravision ถึง 9 ชั้น จึงทำให้เลนส์มีความทนทานสูง ลดการเกิดรอยขีดข่วน ลดแสงสะท้อน กันรอยนิ้วมือ และยังง่ายต่อการทำความสะอาดเลนส์ ทำให้อายุการใช้งานของเลนส์เพิ่มขึ้นอีกด้วย
และด้วยการแพ้แสงของลูกค้า ทางนักทัศนมาตร จึงได้แนะนำให้ใช้เลนส์ออกแดดเปลี่ยนสี PhotoFusion Brown ที่เลนส์จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เมื่อเจอ UV ลดอาการแสบดวงตาเวลาออกไปข้างนอกได้เป็นอย่างดี ทำให้สู้แสงแดดจ้าได้มากขึ้น พอกลับเข้ามาในที่ร่มก็จะเปลี่ยนกลับเป็นเลนส์ใส โดยตัวเลนส์ยังมาพร้อมกับการกันแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย
กรอบที่ลูกค้าเลือกคือ Eyevan Colon WPI กรอบแว่นจากประเทศญี่ปุ่นที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1972 ด้วยคอนเซ็ปท์ของแบรนด์ว่า ” Eyewear for dressing as a fasion accessory ” หรือก็คือแว่นตาที่มีความแฟร์ชั่นเหมือนเครื่องประดับชิ้นหนึ่ง EYEVAN เป็นแบรนด์แว่นตาแบรนด์แรกในญี่ปุ่น ด้วยดีไซน์ที่มีความเงียบสงบของวัฒนธรรมญี่ปุ่น กรอบรุ่นนี้ถูกดีไซน์ออกมาให้สามารถเก็บความหนาของเลนส์ได้มากถึง 4 mm. โดยใช้ Acetate ในการทำกรอบ ทำให้กรอบแข็งแรง ทนทาน และยังมาพร้อมกับสีสันแบบ 2 tone คือสีไม้และชมพู ผสานกันได้อย่างลงตัว มีความแฟร์ชั่น วัสดุของขาแว่นทำจาก β-Titanium ที่ขึ้นชื่อเรื่องความยืดหยุ่นที่สูง น้ำหนักเบา แข็งแรง สามารถดัดให้กระชับเข้ากับรูปหน้า ทำให้แว่นไม่ไหล ทำให้หลายคนหลงรักที่จะใส่แว่นประเภทนี้
วันที่มารับแว่นลูกค้าลองสวมแว่นแล้ว มองได้ชัดขึ้นทั้งระยะใกล้และไกล มองแสงไฟไม่แตกฟุ้ง มองวัตถุในแสงแดดได้สบายตามากยิ่งขึ้น แว่นไม่ไหล น้ำหนักเบากว่าแว่นตัวเดิม มีความคมชัดมากขึ้น ไม่รู้สึกปวดศีรษะหรือต้องปรับตัวเลย ประทับใจชอบแว่นตัวนี้เป็นอย่างมาก
“เพราะการมองเห็นชัด คือ คุณภาพชีวิตที่ดี”