เคสรีวิวที่ 88
“ใส่แว่นเดิมมา 1 ปี รู้สึกปวดกระบอกตามาก ล้าตาง่ายและไม่สามารถใส่แว่นที่มีน้ำหนักมากๆได้ จะเจ็บตรงสันจมูกตลอด ปวดศีรษะทุกครั้งที่ใส่แว่น อยากได้แว่นอันใหม่ที่มองเห็นชัดสบายตา และลดปัญหาเหล่านี้ลงไป ”
เคสนี้ลูกค้ากำลังจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ต้องการตัดแว่นใหม่ เพราะแว่นเดิมที่ใช้มา 1 ปีเริ่มไม่คมชัด ใส่ไปสักพักมีอาการปวดรอบกระบอกตา ปวดศีรษะ ตาล้ามากจนทำงานต่อไม่ไหว รวมทั้งไม่สามารถใส่แว่นที่มีน้ำหนักมาก ๆ ได้ เนื่องจากลูกค้ามีความเซนซิทีฟค่อนข้างสูง เมื่อมีน้ำหนักแว่นกดบริเวณจมูกทำให้บริเวณจมูกมีรอยแดง รู้สึกใส่แว่นแล้วไม่สบาย ต้องการแว่นที่ครบทุกฟังก์ชั่น น้ำหนักเบา สบายตา ดูแลรักษาง่าย
ค่าสายตาแว่นเดิม
R -3.75-0.25×22 VA 20/25
L -4.50-0.25×163 VA 20/40-2
ค่าสายตาปัจจุบันที่วัดโดยละเอียด
R -3.44-0.81×23 VA 20/20
L -3.77-0.96×175 VA 20/20
จากการตรวจวัดค่าสายตาอย่างละเอียดพบว่า สาเหตุที่ทำให้ลูกค้าใส่แว่นเดิมแล้วไม่สบายตาเกิดจากแว่นเดิมใส่ค่าสายตาสั้นที่เกินกว่าค่าสายตาที่แท้จริงมา (Over minus) ทำให้มีอาการตาล้าเร็วขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อตาต้องเพ่งมากกว่าปกติ การใส่ค่าสายตาสั้นเกินจริงในช่วงแรกหลาย ๆ คนมักจะชอบ โดยเฉพาะในวัยเด็ก เพราะสีของตัวอักษรหรือตัวเลขจะดำและเข้มขึ้น ทำให้รู้สึกมองง่าย แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ กล้ามเนื้อตาที่ต้องเพ่งต่อเนื่องหลายชั่วโมงจึงเริ่มล้า มีอาการปวดรอบกระบอกตา โฟกัสยากขึ้น และส่งผลเสียต่อสายตาในระยะยาวได้ครับ
ลูกค้ารีเควสเลนส์ออกแดดเปลี่ยนสีอัตโนมัติ ย่อบางที่สุด มุมมองกว้าง ปรับตัวง่าย ขอน้ำหนักรวมแว่นและเลนส์เบาที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ
ทางร้านแนะนำ Nikon 1.74 Seemax Infinite Sensitivity Transition8 Grey + Eyecurasee เลนส์ชั้นเดียวโครงสร้าง Double Aspheric (เลนส์โค้งแบน 2 ด้าน) ให้มุมมองภาพที่เป็นธรรมชาติด้วยเทคโนโลยี 8 Axis optimization เป็นการขัดเลนส์ทั้งหมด 8 แนวแกน จึงช่วยลดภาพบิดเบือนและลดภาพวูบวาบเมื่อต้องเหลือบมองด้านข้าง โดยเฉพาะในคนที่มีค่าสายตาสั้นและเอียงสูง ๆ ร่วมกับการคำนวณค่าพารามิเตอร์เฉพาะบุคคล ทำให้ได้เลนส์ที่สมบูรณ์แบบกับกรอบที่ลูกค้าเลือก และอีกหนึ่งเทคโนโลยีเฉพาะของเลนส์ Nikon คือ “ค่า Sensitivity” ครับ
ค่า Sensitivity คือ ค่าความเซนซิทีฟของแต่ละบุคคลที่มีร่วมกับค่าสายตา เลนส์ที่เพิ่มค่า Sensitivity จะเป็นค่าเฉพาะบุคคลที่ทาง Nikon ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการออกแบบเลนส์ของตัวเองโดยทำการทดสอบผ่านแอปพลิเคชั่นเฉพาะ ซึ่งเป็นการทดสอบความไวต่อภาพบิดเบือนที่แต่ละบุคคลจะมีความเซนซิทีฟไม่เท่ากัน แม้จะมีค่าสายตาเดียวกันก็ตามครับ ผลที่ได้คือจะได้ความนุ่มนวล สบายตา และมองอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมทั้งช่วยให้ปรับตัวกับเลนส์คู่ใหม่ได้ง่ายขึ้นด้วยครับ
ลูกค้าเลือกเป็นเลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติ เนื่องจากไม่ต้องการพกแว่นหลายตัว และอยากได้ความสบายตาสูงสุดเมื่อต้องออกกลางแจ้ง เป็นเลนส์เปลี่ยนสี Transition8 Grey โทนสีเทาดำ ให้ความสบายตาแม้จะเจอแสงแดดจ้า โทนสีไม่เพี้ยน ปรับตัวง่าย
กรอบเป็น Haffmans & neumeister รุ่น Fairchild col.001 กรอบสีเงิน วัสดุแว่นเป็น stainless steel medical grade เกรดทางการแพทย์ครับ น้ำหนักแว่นเบามาก ๆ แว่นออกแบบมาแบบไร้น็อต จึงหมดปัญหาเรื่องน็อตของแว่นชำรุดหรือหลุดหาย แป้นจมูกสามารถเปลี่ยนเองได้ง่าย ๆ โดยสามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วยตัวเองที่บ้าน เหมาะกับลูกค้าที่จะเดินทางไปต่างประเทศมาก ๆ ครับ
ลูกค้ารับแว่นไปใส่แล้วครับ ลูกค้าประทับใจมาก เนื่องจากมีปัญหาเรื่องอาการปวดศีรษะกับแว่นเดิมมานาน เมื่อใส่แว่นตัวนี้อาการปวดตึงที่กระบอกตาและอาการปวดศีรษะหายไปเลย น้ำหนักแว่นเบากว่าแว่นที่เคยใส่มา มุมมองภาพชัดสบายตา ไม่ต้องปรับตัวเลยครับ
ดีใจที่วันนี้เราได้มีโอกาสดูแลทุกท่านและแก้ไขปัญหาการใส่แว่นให้ทุกคนได้ตรงจุด ขอบคุณที่ทุกคนไว้วางใจให้เราดูแลสุขภาพตาและตัดแว่นให้ ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการมองเห็นชัดของทุกคน
“เพราะที่นี่เป็นมากกว่าร้านแว่น”