เคสรีวิวที่ 101
“เลนส์โปรเกรสซีฟตัวแรกที่ปรับตัวง่ายมาก ๆRodenstock Impression B.I.G NORM Allround”
เคสรีวิววันนี้สำหรับคนที่ไม่เคยใส่เลนส์โปรเกรสซีฟมาก่อน อยากได้เลนส์ที่ปรับตัวง่าย ๆ ไม่เวียนศีรษะ ครบทุกฟังก์ชันในแว่นตัวเดียวครับ
เคสนี้ลูกค้ามีปัญหาค่าสายตาสั้นเพิ่มขึ้นเยอะมาก ในช่วง Work from home เพราะเป็นช่วงที่ใช้สายตาระยะใกล้เยอะ อุปกรณ์ที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คและโทรศัพท์มือถือ มีใช้สายตาระยะไกลในช่วงขับรถ เนื่องจากประจำวันลูกค้าจะใช้สายตาที่ใกล้เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ไม่ได้สังเกตว่าระยะไกลเริ่มไม่ชัดแล้ว โดยเฉพาะเมื่อต้องขับรถในช่วงกลางคืน ลูกค้ามองไม่ค่อยเห็นป้ายบอกทาง ทำให้เป็นอุปสรรคการขับรถครับ
ลูกค้าแจ้งว่าไม่เคยใส่แว่นโปรเกรสซีฟมาก่อนเลย แว่นที่ใช้อยู่เป็นเลนส์ชั้นเดียว (Single vision lens) ใช้งานมาประมาณ 3 ปี
ค่าสายตาแว่นเดิม
R -4.75 VA 20/63
L -5.25 VA 20/63
ค่าสายตาปัจจุบันที่วัดโดยละเอียด
R -6.78 VA 20/20
L -7.51-0.59×3 VA 20/20
Addition (ค่าสายตายาวตามวัย) +1.00
ปัจจุบันลูกค้ามีค่าสายตาสั้นเพิ่มขึ้นเยอะมากทั้ง 2 ข้าง รวมทั้งเริ่มมีค่าสายตายาวตามวัย ดังนั้นจากค่าแว่นเดิมที่ใช้อยู่จึงสามารถมองใกล้ ๆ พอได้ แต่ระยะไกลไม่ชัด เนื่องจากลูกค้าใช้เป็นเลนส์ชั้นเดียวอยู่ครับ
Single vision lens : เลนส์ชั้นเดียว สำหรับบุคคลที่เริ่มมีภาวะสายตายาวตามวัยจะเป็นเลนส์ที่สามารถมองได้ชัดที่สุดเพียง 1 ระยะเท่านั้น ซึ่งต้องเลือกว่าจะมองระยะไหนที่ชัดที่สุด ถ้าเลือกมองระยะไกลชัด ระยะใกล้จะไม่ชัด หรือถ้าเลือกมองระยะใกล้ชัด จะไม่สามารถใช้มองไกล หรือไม่สามารถใส่เดินได้นั่นเองครับ
Progressive lens : เลนส์โปรเกรสซีฟ เลนส์ที่สามารถมองได้ชัดในทุก ๆ ระยะ (ไกล กลาง ใกล้) โดยไม่ต้องคอยถอดแว่นออกหรือไม่ต้องสลับแว่นหลาย ๆ ตัว เหมาะสำหรับคนที่มีค่าสายตายาวตามวัยที่ต้องการมองชัดทุกระยะครับ
ดังนั้นจากการประเมินค่าสายตาและไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของลูกค้า ทางร้านจึงแนะนำให้ลูกค้าใส่เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ ซึ่งสามารถมองได้ชัดทุกระยะโดยไม่ต้องสลับแว่นไปมา ไม่ต้องพกแว่นหลายตัว สะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน และเหมาะกับค่าสายตาของลูกค้าครับ
เลนส์ที่แนะนำสำหรับเคสนี้ เป็น Rodenstock 1.67 Impression B.I.G. NORM Allround CM3 Grey โปรเกรสซีฟรุ่นที่ดีที่สุด ใช้การขัดเลนส์ละเอียดระดับไมครอน Freeform technology และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ใช้ระบบอัลกอริทึม AI Technology ซึ่งมีการเก็บรวบรวมข้อมูลกายภาพของดวงตาแต่ละคู่ที่มีความแตกต่างกันตามค่าสายตาของแต่ละบุคคล กว่า 500,000 ชุดข้อมูล เพื่อมาออกแบบจำลองดวงตาไบโอเมตริกให้เหมาะสมกับค่าสายตาของลูกค้า
นอกจากนี้เลนส์ Impression B.I.G NORM ยังใช้ค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ คือ ความโค้งกรอบแว่น ความเทหน้าแว่น และระยะห่างกระจกตา ซึ่งต้องวัดค่าเหล่านี้เมื่อแว่นอยู่บนใบหน้าของลูกค้าจริง ๆ แล้วนำค่าทั้งหมดมาคำนวณร่วมกับค่าสายตาแบบเฉพาะบุคคล 0.01 ไดออปเตอร์ คำนวณตามพฤติกรรมการใช้สายตา ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน ทำให้การผลิตเลนส์โปรเกรสซีฟแต่ละคู่มีความแม่นยำในระดับสูง มุมมองภาพเป็นธรรมชาติ ปรับตัวง่าย ลดอาการมึนศีรษะในการปรับตัวกับโปรเกรสซีฟตัวแรกครับ
ลูกค้าต้องการเลนส์เปลี่ยนสีอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความสบายตาเมื่อต้องออกกลางแจ้ง จึงเพิ่มออปชั่นเลนส์ปลี่ยนสี CM3 สี Grey เลนส์เปลี่ยนสีรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนสีเร็วขึ้นและเข้มกว่ารุ่นเดิม โทนสีคลาสสิคที่ให้ความสบายมากที่สุด เหมาะสำหรับคนสายตาสั้นเยอะที่ไม่สามารถใส่แว่นกันแดดแบบทั่วไปได้ หรือคนที่ไม่ต้องการพกแว่นกันแดดอีกตัวครับ
กรอบเป็น Tomford รุ่น 5852DB 052 แว่นสัญชาติอิตาลี ที่เน้นการออกแบบที่เรียบง่ายแต่ยังคงทันสมัย เสริมภาพลักษณ์ให้ดูดี วัสดุเป็น Acetate ที่เหมาะกับคนสายตาสั้น ช่วยบังความหนาเลนส์ได้เยอะมาก ทำให้ขอบเลนส์ไม่ล้นออกมาเยอะเกินไป ตัดออกมายังคงได้ความสวยงามครับ
ลูกค้ารับแว่นไปแล้วครับ สำหรับโปรเกรสซีฟตัวแรกลูกค้าบอกว่าปรับตัวง่ายมาก แทบไม่เห็นภาพวูบวาบเลย เหมือนใส่เลนส์ชั้นเดียวธรรมดา มองระยะไกลชัดขึ้นมาก ซึ่งแว่นเดิมไม่สามารถมองป้ายทะเบียนรถได้ ตอนนี้มองเห็นชัดทุกระยะ สามารถขับรถได้อย่างมั่นใจขึ้น ใช้งานคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือได้ชัดเจนโดยไม่ต้องคอยถอดแว่นสลับไปมา ประทับใจมากครับ
“เพราะการมองเห็นชัด คือ คุณภาพชีวิตที่ดี”