เคสรีวิวที่ 309

เคสรีวิวที่ 309 😊👓❤️
เคสนี้ลูกค้าอายุ 30 ปี ใช้งานสายตาอยู่กับอุปกรณ์ดิจิทัลมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน แว่นตัวเดิมใช้งานสายตามา 3 ปีเริ่มมองเห็นไม่คมชัดแล้ว เห็นภาพฟุ้ง ต้องพยายามโฟกัสภาพเพื่อให้ภาพคมชัดขึ้น เลยทำให้ลูกค้าปวดศีรษะ และปวดกระบอกตามากครับ จึงทำนัดเข้ามาปรึกษาตรวจวัดค่าสายตาและตรวจสุขภาพตาด้วยครับ
ค่าสายตาแว่นเดิม
R -5.25 -1.75 x 167 VA 20/50
L -5.00 -1.50 x 173 VA 20/40
ค่าสายตาที่วัดโดยละเอียด 0.01 ไดออปเตอร์
R -5.55 -2.60 x 177 VA 20/20
L -5.30 -1.90 x 176 VA 20/20
จากการตรวจวัดสายตาโดยละเอียดพบว่า ลูกค้ามีค่าสายตาสั้น (Myopia) และค่าสายตาเอียง (Astigmatism)เพิ่มขึ้น จึงทำให้ลูกค้าต้องพยายามโฟกัสภาพให้คมชัดและทำให้ลูกค้าปวดศรีษะ พร้อมทั้งลูกค้าใช้งานสายตาอยู่กับอุปกรณ์ดิจิทัลเป็นเวลามากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน จึงทำให้ลูกค้ามีอาการล้าตาร่วมด้วยครับ
นักทัศนมาตรจึงแนะนำเลนส์ ZEISS 1.60 Smartlife single vision Blueguard Duravision Platinum UV เลนส์เฉพาะบุคคลที่นำเอาค่ามุมเทหน้าแว่นมาคำนวณร่วมด้วยเพื่อให้ลูกค้ามองภาพระยะใกล้คมชัดและสบายตาเพิ่มมากยิ่งขึ้นโครงสร้างเลนส์เป็นแบบ Freeform Technology จึงทำให้ภาพบิดเบือนด้านข้างลดน้อยลง ผสานกับเทคโนโลยี Smartlife Technology ที่มีการคำนวณการหด-ขยายรูม่านตาความล้าของกล้ามเนื้อดวงตาเวลาใช้งานดิจิทัล เพื่อความสบายตาทุกสภาวะแสง และช่วยให้ปรับตัวได้ง่ายมากยิ่งขึ้นครับ
กรอบแว่นลูกค้าเลือกเป็น MATSUDA แบรนด์แว่นตาสัญชาติญี่ปุ่น ที่ผลิตจากความปราณีตโดยช่างมากฝีมือชาวญี่ปุ่น เป็นการผลิตแว่นตาด้วยมือและงานสลักลวดลาย วัสดุไทเทเนียมแข็งแรงและทนทาน กรอบแว่นเมื่อลูกค้าสวมใส่เบาสบาย อีกทั้งยังส่งเสริมเอกลักษณ์ โดดเด่นให้ลูกค้า
วันมารับแว่นลูกค้าประทับใจมาก มองเห็นชัดสบายตา อาการปวดกระบอกตาไม่เกิดขึ้น ภาพฟุ้งกระจายหายไป มองภาพคมชัดสดใส กรอบแว่นเบาสบายและสวยงามมากครับ
“เพราะการมองเห็นชัด คือ คุณภาพชีวิตที่ดี”

Share:

More Posts

Your Vision: Go Beyond

On Key

Related Posts