เคสรีวิวที่ 432 
“ลูกค้ารับแว่นโปรเกรสซีฟไปแล้วครับ ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ใส่ มองเห็นได้อย่างชัดเจน ภาพชัดและรู้สึกว่าใช้ตาทั้งสองข้างร่วมกันได้อย่างดี ปรับตัวง่ายมากครับ”
เคสนี้ลูกค้าไม่เคยใส่แว่นโปรเกรสซีฟมาก่อน ปัจจุบันรู้สึกว่าเลนส์ที่ใช้งานอยู่มองเห็นไม่ชัด ต้องพยายามหาโฟกัสและปรับโฟกัสตาอยู่บ่อย ๆ ทำให้มีผลกระทบต่อการทำงานที่ต้องดูเอกสาร และใช้งานกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ครับ
ค่าสายตาที่วัดโดยละเอียด
R +1.25-1.00×80 VA 20/20
L +0.75-1.00×91 VA 20/20
ADDITION 2.38 (ค่าสายตายาวตามวัย)
จากการตรวจวัดค่าสายตาพบว่าลูกค้ามีสายตายาวและเอียงเพิ่มขึ้นทั้งสองข้าง ระยะใกล้มีสายตายาวตามวัยเพิ่มขึ้น ลูกค้าต้องใช้สายตาเยอะตลอดทั้งวัน ต้องการความคมชัดมากเป็นพิเศษ จึงพิจารณาจ่ายค่าสายตาเต็ม (full correction) และแนะนำเลนส์ที่ช่วยให้ลูกค้าปรับตัวง่ายในครั้งแรก ครับ
เลนส์ที่แนะนำสำหรับลูกค้าคือเลนส์โปรเกรสซีฟ ZEISS 1.60 SmartLife PRO Progressive Individual DuraVision Platinum (LAB) โดยเลนส์รุ่นนี้เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลรุ่นที่ดีที่สุด ด้วยการขัดเลนส์แบบ Customized Backside Freeform และใช้ค่าพารามิเตอร์ของแว่นขณะสวมใส่บนใบหน้าลูกค้ามาใช้ในการขัดเลนส์ ได้แก่ ความโค้งหน้าแว่น (Wrap Angle), มุมเทหน้าแว่น (Pantoscopic Tilt Angle) และระยะห่างตากับเลนส์แว่น (Back Vertex Distance) ทำให้เลนส์มีมุมมองที่คมชัดและภาพบิดเบือนด้านข้างน้อยที่สุด
มีการคำนวณขนาดของรูม่านตาตามวัยด้วย Smartlife PRO Technology ซึ่งมีการคำนวณขนาดของรูม่านตาตามจริงของผู้สวมใส่ ทำให้ลูกค้าใช้งานระยะใกล้ได้อย่างสบายตามากขึ้น ปรับโฟกัสได้เร็ว มุมมองภาพกว้างขึ้น ภาพวูบวาบและภาพบิดเบือนน้อยลง
กรอบแว่นลูกค้า เลือก Lindberg รุ่น rim Cris สี 60,60 กรอบแว่นตาพรีเมียมจากประเทศเดนมาร์ก วัสดุไทเทเนียม แข็งแรงรองรับกับค่าสายตาของลูกค้าเป็นอย่างดี สีของกรอบแว่นตาใช้เทคนิค Electric Bath เป็นการใช้ประจุไฟฟ้าทำให้เกิดสี จึงทำให้สีของแว่นมีความทนทาน ไม่ลอกเป็นแผ่นๆ ใช้ได้ยาวนานครับ
ลูกค้ารับแว่นแล้วครับ ประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ใส่ มองเห็นได้อย่างชัดเจน ลูกค้าบอกว่าภาพชัดและรู้สึกว่าใช้ตาทั้งสองข้างร่วมกันได้อย่างดี ปรับตัวง่าย มองตัวหนังสือและตัวเลขได้ชัดขึ้น ประทับใจมากครับ
Unlock your full visual potential with #ZEISSvisionCenter #supparerkvisioncenter
