เคสรีวิวที่ 158 
“อายุเริ่มเข้าเลข 4 แล้วมองใกล้เริ่มไม่ชัด มองไกลก็เบลอ ทำอย่างไรดี”
เคสนี้ลูกค้าอายุ 40 ปี ปัญหาของลูกค้าคือการมองเห็นในระยะใกล้เริ่มไม่ชัดเจนเหมือนสมัยก่อน ตอนแรกลูกค้าคิดว่าเป็นเพราะตาแห้ง แต่หยอดน้ำตาเทียมแล้วการมองระยะใกล้ก็ยังไม่ชัด จึงสงสัยว่าตัวเองอาจจะมีสายตายาวตามอายุ เหมือนกับเคสรีวิวของทางร้าน และตอนนี้การมองไกลก็ไม่ชัด จึงได้ทำคิวมาตรวจสายตาอย่างละเอียดครับ
ค่าสายตาแว่นเดิม
R -6.75-0.25×84 VA 20/25-1
L -6.25-0.25×104 VA 20/63-2
ค่าสายตาละเอียด (ระดับ 0.01 ไดออปเตอร์)
R -7.05-0.27×84 Add +0.75 VA 20/20
L -7.69-0.23×118 Add +0.75 VA 20/20
จากการตรวจอย่างละเอียดได้พบว่าลูกค้ามีค่าสายตาสั้นที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้มองไกลไม่ชัด และมีสายตายาวที่เพิ่มขึ้นตามอายุด้วยจึงเป็นสาเหตุการมองในระยะใกล้ไม่ชัดเจน ลูกค้าอยากได้แว่นที่ใส่ตัวเดียวแล้วมองได้หลายระยะ ทางร้านได้ให้ทดลองใส่เลนส์โปรเกรสซีฟในห้องจำลอง เพื่อทดสอบการมองเห็นขณะขึ้นเดินขึ้นลงบันได จำลองการใช้งานคอมพิวเตอร์และมือถือ ลูกค้าไม่มีภาวะปวดศีรษะ มองชัดทั้งระยะไกลและใกล้ สามารถใช้งานแว่นโปรเกรสซีฟได้
นอกจากนี้ทางร้านได้ตรวจสุขภาพดวงตาส่วนหน้า ผิวกระจกตา ช่องด้านหน้าลูกตาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีภาวะต้อหิน ไม่มีภาวะต้อกระจกที่ต้องผ่าตัด แต่มีภาวะตาแห้งเล็กน้อย ทางร้านได้แนะนำให้หยอดน้ำตาเทียม
จากนั้นนักทัศนมาตรได้แนะนำเลนส์โปรเกรสซีฟในโครงสร้างต่างๆ ให้กับลูกค้า ลูกค้าตัดสินใจเลือก เลนส์ Zeiss 1.67 SmartLife Progressive Plus DuraVision Platinum PhotoFusion Grey เลนส์ที่ใช้เทคโนโลยีการขัดเลนส์แบบละเอียดแบบจุดต่อจุด ผสานกับค่าสายตาแบบละเอียด ทำให้ได้ความถูกต้องและแม่นยำ ตรงกับค่าสายตาจริง เพิ่มมุมมองการมองเห็นให้กว้างและสบายตามากขึ้น
Index 1.67 คือการย่อบางของตัวเลนส์ ที่นอกจากจะทำให้เลนส์บางลงแล้ว ยังทำให้เลนส์เหนียวขึ้นและน้ำหนักเลนส์น้อยลง ทำให้ใส่เลนส์ได้สบายมากขึ้น
SmartLife เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคดิจิตอล โดยใช้หลักการคำนวนของภาวะการล้ากล้ามเนื้อดวงตา ความเร็วในการหดขยายของรูม่านตาในแต่ละช่วงอายุ เพื่อความสบายดวงตาในการปรับตัวและการใช้งาน
DuraVision Platinum สารเคลือบเอกสิทธิ์เฉพาะของ Zeiss ที่นำเอาสารเคลือบในแต่ละชั้นมาคำนวนโครงสร้างในระดับโมเลกุลให้ผสานกันอย่างแนบสนิทที่สุด เพื่อความทนทานและป้องกันสูงสุด
PhotoFusion Grey เลนส์ออกแดดแล้วเปลี่ยนสีเป็นสีเทาดำ เพิ่มความสบายดวงตาในการใช้งานทั้งในและนอกอาคาร ทำให้ผู้สวมใส่สามารถสู้แสงแดดได้มากขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมกับสารกันแสงสีฟ้าจากจออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ช่วยในการถนอมสายตาให้มากขึ้น
ลูกค้าต้องการกรอบที่น้ำหนักเบา เพราะต้องใส่ตลอดเวลา จึงเลือกใช้ Lindberg thintanium 5504 U12,U12 GC00 กรอบเซาะร่องโลหะจากประเทศเดนมาร์ก คอลเลคชั่นใหม่ที่ใช้ทั้งวิศวกรและดีไซเนอร์ร่วมกันสร้างมาตรฐานใหม่ของไทเทเนี่ยมเกรดที่เบาที่สุด โดยนำเอาความแข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบามาสร้างสรรค์ผลงานในกรอบรูปแบบต่างๆในรูปแบบ minimalistic โดยทางทีมวิศวกรยังใช้หลักการแบบ Screwless system ที่ใช้แรงต้านของกลไกในการพับ ทำให้ได้ในเรื่องทั้งอายุการใช้งานที่ยาวนาน ความแข็งแรง และทำให้น้ำหนักเบาสุดได้ถึง 3.3 g. และยังง่ายต่อการดูแลรักษา
กรอบ Lindberg เป็นที่รู้จักกันอย่างมากว่าสามารถปรับแต่งและดีไซน์ให้พอดีกับโครงหน้าแต่ละบุคคล สามารถเลือกสีวัสดุได้หลายเฉดสี และยังใช้หลักการการเหนี่ยวนำของกระแสไฟฟ้าในการทำสี จึงทำให้สีไม่ลอกจากการใช้งานโดยทั่วไป ตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งวันและยังสวยงามเหมาะกับรูปหน้าอีกด้วย
วันที่มารับแว่นลูกค้าใส่ใช้งานจริงแล้วคมชัดทุกระยะการใช้งาน ไม่รู้สึกถึงภาพวูบวาบ เป็นแว่นโปรเกรสซีฟตัวแรกที่ประทับใจมาก อีกทั้งน้ำหนักเบาใสแล้วไม่รู้สึกรำคาญ ลูกค้าสามารถใส่แว่นอันนี้กลับบ้านได้เลยทันที ชื่นชอบมากจริงๆ
“เพราะการมองเห็นชัด คือ คุณภาพชีวิตที่ดี”
